งานด้านธุรกิจ ของ จอร์จ โซรอส

Black Wenesday (16 กันยายน 1992) กองทุนของโซรอสขายหุ้นมูลค่ากว่า $1,000,000,000 ปอนด์ โดยเก็งกำไรว่าจะซื้อกลับด้วยราคาที่ต่ำกว่าเพื่อที่จะดูว่าทางธนาคารจะขึ้นดอกเบี้ยเพื่อจะได้เทียบเท่ากับค่าเงินยุโรปหรือว่าจะปล่อยให้ค่าเงินลอยตัว ในที่สุดธนาคารอังกฤษถอนเงินออกจาก Europen Exchange Rate Mechanism ทำให้ค่าเงินตกในการกระทำครั้งนี้ โซรอสสร้างกำไรประมาณ 1,100,000,000 เขาขึ้นชื่อว่า “ชายผู้ทำลายธนาคารอังกฤษ”The Times ของวันจันทร์ ที่ 26 ตุลาคม ปี 1992 ได้คัดลอกบทสนทนาของ จอร์จ โซรอส ว่า “ในตำแหน่งของเรา ในวัน Black Wenesday ต้องมีมูลค่าเกือบ $10,000,000,000 แน่ เรากะว่าจะขายมากกว่านั้น ความจริงแล้วตอนที่ Norman Lamont บอกก่อนที่จะค่าเงินตกว่าจะยืมเงินเกือบ $15,000,000,000 เพื่อจะปกป้องค่าเงินของเขา เราก็นึกสนุกขึ้นมาเพราะนั่นคือจำนวนที่เรากะว่าจะขายอยู่พอดี”Stanley Druckenmiller ที่ทำการแลกเปลี่ยนภายใต้การดูแลของโซรอส เป็นผู้เห็นจุดอ่อนในค่าเงินปอนด์ สิ่งที่โซรอสทำคือดันเขาให้ทำให้มันใหญ่ขึ้น ในปี 1997 ช่วงวิกฤติเศรษฐกิจของเอเชีย นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย มหาธีร์ โมฮาหมัด กล่าวหาโซรอสว่าเขาใช้ความมั่งคั่งลงโทษกลุ่มอาเซียนที่รับพม่าเข้ามาเป็นสมาชิกแต่โซรอสก็ปฏิเสธคำกล่าวหานั้นในหนังสือของเขาที่ออกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2008 The New Paradigm for Financial Markets กล่าวถึงกลุ่มที่เรียกว่า “Supperbubble” ซึ่งได้ก่อตัวขึ้นภายใน 25 ปีที่ผ่านมานี่เป็นหนังสือเล่มที่สามที่เขาได้เขียนที่พยากรณ์ความหายนะ โซรอสได้กล่าวไว้ว่า เขาเป็นเหมือนเด็กเลี้ยงแกะ หนังสือเล่มแรก The Alchemy of Finance ในปี 1987 แล้วก็ The Crisis of Global Capitalism ในปี 1998 แล้วก็เล่มนี้ เพราะฉะนั้นก็มีหนังสือทั้งหมดสามเล่มที่ทำนายว่าจะมีหายนะเกิดขึ้น หลังจากเด็กเลี้ยงแกะบอกว่าหมาป่ามาสามครั้ง หมาป่าก็มาจริงๆ

เขาบอกว่าที่เขาประสบความสำเร็จเพราะว่าเขาสามารถบอกได้เมื่อการคาดเดาของเขาผิดฉันรวยเพียงแค่เพราะว่าฉันบอกได้ว่าเมื่อไหร่ที่ฉันผิด ฉันรอดมาได้ก็เพียงแค่เพราะฉันเอาตัวรอดได้จากข้อผิดพลาดของฉัน ฉันเคยรู้สึกปวดหลังมากๆ เพราะว่าฉันทำพลาดไป ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เธอทำพลาดเธอต้องสู้ พอคิดได้อย่างงั้นอาการปวกหลังของฉันก็หายไป

กุมภาพันธ์ 2009 โซรอสบอกว่า ระบบการเงินโลกได้แตกตัวออกจากกันอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ยังไม่มีทางแก้วิกฤติทางเศรษฐกิจอันใกล้นี้อยู่ดี “เราได้พบเจอการล่มสลายของระบบการเงิน และก็ถูกดูแลเป็นพิเศษเพื่อประคองตัวได้แม้แต่ตอนนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ และไม่ใกล้เคียงก้นบึ้งเลย”

1988 เขาถูกชักชวนให้ไปร่วมในการยึดธนาคารสัญชาติฝรั่งเศสแห่งหนึ่ง Société Générale เขาปฏิเสธที่จะเข้าร่วมและภายหลังยังซื้อหุ้นในธนาคารนั้นด้วย รัฐบาลฝรั่งเศสเริ่มสิบสวนกรณีนี้ในปี 1989 และหลังจากนั้นในปี 2002 ทางศาลของฝรั่งเศสก็ตัดสินมาว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่ผิดกฎหมาย โดยใช้ข้อมูลวงในในทางที่ผิด (insider trading) โดยปรับตามกฎหมายฝรั่งเศสเป็นเงิน $2,300,000 ซึ่งเท่ากับจำนวนเงินที่ได้มาจากการกระทำครั้งนี้แต่ไม่มีรับผิดใดๆ เพราะความล่าช้าในการนำคดีขึ้นศาล โซรอสปฏิเสธการกระทำใดๆ ที่ผิดกฎหมายทั้งสิ้นและบอกว่าข่าวเรื่องการยึดธนาคารนั้นเป็นข่าวสาธารณะไม่ใช่ข่าววงในคดีความนี้ได้ขึ้นไปสู้ศาลสูงสุดของฝรั่งเศส ในวันที่ 14 มิถุนายน 2006 และในเดือนธันวาคม ปี 2006 เช่นกัน โซรอสได้นำคดีนี้ขึ้นศาลสิทธิบุคคลของยุโรป เนื่องจากคดีนี้ได้ไต่สวนเกินกว่า 14 ปีแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีการแก้ตัวในชั้นศาลอย่างเป็นธรรม

2005 โซรอสเป็นหุ้นส่วนเล็กในกลุ่มผู้ลงทุน ที่พยายามจะซื้อ Washington Nationals ของ National Leagues ผู้ร่างกฎหมาย republican บางคนพูดว่าพวกเขาอาจจะเปลี่ยนการกะทำของเขาที่มี

ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้

2008 โซรอส มีชื่อเกี่ยวข้องกับ AS Roma ธีมฟุตบอลของอิตาลี แต่ตัวสโมสรไม่ได้ถูกขาย โซรอสยังเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินของ Washinton Soccer L.P. กลุ่มที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิการจัดการสโมสรฟุตบอล D.C. United ใน Major League Soccer เมื่อตอนที่ลีกถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1995 แต่เสียกรรมสิทธิไปเมื่อปี 2000

แหล่งที่มา

WikiPedia: จอร์จ โซรอส http://www.campaignmoney.com/biography/george_soro... http://www.forbes.com/finance/lists/54/2004/LIR.jh... http://fundville.com/fund/2516/SOROS-FUND-MANAGEME... http://georgesoros.com/ http://www.investors.com/NewsAndAnalysis/Article.a... http://www.livermorereport.com/blogs/georgesoros/ http://www.newyorker.com/archive/2004/10/18/041018... http://www.nybooks.com/authors/157 http://www.aworldtowin.net/reviews/SorosParadigm.h... http://web.archive.org/20000516195654/campus.fortu...